ปัญหาขากรรไกรบนแคบ ฟันยื่น และฟันซ้อนเก อาจไม่ได้มาจากพันธุกรรม ... แต่อาจเกิดจากการหายใจที่ไม่ถูกต้อง

songkhunmorjudfun
18 ก.ย.
ยาว 1 นาที

อัปเดตเมื่อ 6 ต.ค.

คุณกำลังประสบปัญหาขากรรไกรบนแคบ ฟันหน้ายื่น ฟันซ้อนเก หรือขากรรไกรล่างถอยอยู่ใช่ไหม? หลายคนอาจคิดว่าปัญหาเหล่านี้เป็นเรื่องของพันธุกรรมที่แก้ไขไม่ได้ แต่ความจริงแล้วสาเหตุสำคัญส่วนหนึ่งอาจมาจากพฤติกรรมการหายใจที่ไม่ถูกต้องตั้งแต่ยังเด็ก ซึ่งเป็นผลมาจากการหายใจทางปาก

บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจถึงความแตกต่างระหว่างการหายใจทางจมูกที่ถูกต้องกับการหายใจทางปากที่ส่งผลเสียต่อโครงสร้างใบหน้าในระยะยาว

หายใจทางปาก vs. หายใจทางจมูก: ความแตกต่างที่ส่งผลต่อสุขภาพและโครงสร้างใบหน้า

กลไกที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงบนใบหน้า

โดยปกติแล้ว เมื่อเราหายใจทางจมูก ลิ้นจะอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้องคือแตะอยู่บนเพดานปาก ซึ่งทำหน้าที่เป็น "ตัวขยายเพดานปาก" ธรรมชาติที่ช่วยให้ขากรรไกรบนเจริญเติบโตไปด้านหน้าและด้านข้างอย่างเหมาะสม แต่เมื่อเราหายใจทางปาก ลิ้นจะลดระดับลงมาอยู่ด้านล่างเพื่อให้ช่องทางหายใจเปิดกว้างขึ้น การที่ลิ้นไม่อยู่บนเพดานปากทำให้ขาดแรงดันที่จำเป็นในการขยายขากรรไกรบน ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างใบหน้า ดังนี้:

1. การเปลี่ยนแปลงของกระดูกขากรรไกรและเพดานปาก

ขากรรไกรบนแคบและยาว: เมื่อไม่มีแรงดันจากลิ้น กระดูกขากรรไกรบนจะถูกแรงกดจากแก้มเข้าสู่ด้านใน ทำให้ขากรรไกรบนเติบโตในแนวแคบและยาวขึ้นแทนที่จะขยายออกไปด้านข้าง
เพดานปากโค้งสูง (High-arched Palate): การที่ขากรรไกรบนแคบลง ทำให้เพดานปากโค้งสูงผิดปกติ ซึ่งไปลดพื้นที่ภายในโพรงจมูก ทำให้หายใจทางจมูกได้ลำบากขึ้นอีก
ขากรรไกรล่างถอยร่น (Recessed Jaw): เมื่อขากรรไกรบนไม่เจริญเติบโตไปด้านหน้าอย่างเต็มที่ ขากรรไกรล่างก็ไม่สามารถพัฒนาไปข้างหน้าตามได้ ส่งผลให้คางดูสั้นหรือถอยเข้าไปด้านใน

2. ผลกระทบต่อการเรียงตัวของฟัน

ฟันยื่นและฟันซ้อนเก: เมื่อขากรรไกรบนแคบลง จะมีพื้นที่ไม่เพียงพอสำหรับฟัน ทำให้ฟันหน้ายื่นออกมา (Overjet) หรือฟันซ้อนเก (Crowding) ซึ่งเป็นปัญหาที่ต้องแก้ไขด้วยการจัดฟัน
การสบฟันผิดปกติ (Malocclusion): การเปลี่ยนแปลงของขากรรไกรทั้งบนและล่าง ทำให้ฟันไม่สามารถสบกันได้อย่างพอดี ซึ่งนำไปสู่ปัญหาการบดเคี้ยวและอาจส่งผลต่อข้อต่อขากรรไกร (TMJ) ได้

3. ลักษณะใบหน้าที่เปลี่ยนไป (Adenoid Face)

เมื่อพฤติกรรมนี้เกิดขึ้นต่อเนื่องในวัยเด็ก จะทำให้เกิดลักษณะเฉพาะบนใบหน้า ที่เรียกว่า "ใบหน้าแบบคนหายใจทางปาก" หรือ Adenoid Face ซึ่งมีลักษณะ:

ใบหน้าดูยาวและแคบ
ริมฝีปากบนสั้นและเชิดขึ้น
ริมฝีปากอ้าเล็กน้อยตลอดเวลา
ตาดูเหนื่อยหรือมีรอยคล้ำใต้ตา
รูจมูกดูแคบ

แล้วจะแก้ไขได้อย่างไร?

การแก้ไขปัญหาที่เกิดจากการหายใจทางปากควรเริ่มจากการรักษาที่ต้นเหตุ เช่น การปรึกษาแพทย์ หู คอ จมูก เพื่อแก้ไขปัญหาการอุดตันในจมูก เช่น ต่อมอะดีนอยด์หรือต่อมทอนซิลโต จากนั้นทันตแพทย์จัดฟันจะช่วยแก้ไขโครงสร้างขากรรไกรและฟันที่ผิดปกติ โดยอาจใช้เครื่องมือขยายขากรรไกรบน (Palatal Expander) เพื่อสร้างพื้นที่ให้กับขากรรไกรบนและช่วยให้การหายใจทางจมูกกลับมาเป็นปกติอีกครั้ง

การหายใจทางปากไม่เพียงส่งผลเสียต่อสุขภาพโดยรวมเท่านั้น แต่ยังสามารถเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์และโครงสร้างใบหน้าได้อย่างชัดเจน การสังเกตและแก้ไขพฤติกรรมนี้ตั้งแต่เนิ่นๆ โดยเฉพาะในเด็ก จึงเป็นกุญแจสำคัญในการป้องกันปัญหาเหล่านี้และสร้างรอยยิ้มที่มั่นใจในอนาคต

หากคุณหรือบุตรหลานมีปัญหาที่กล่าวมาข้างต้น เช่น หายใจทางปาก นอนกรน ภูมิแพ้ ฟันหน้ายื่น ฟันซ้อนเก หรือต้องการตรวจเช็กโครงสร้างใบหน้าและการสบฟันเพื่อป้องกันปัญหาในระยะยาว สามารถปรึกษาทีมทันตแพทย์จัดฟันเฉพาะทางที่คลินิกสองคุณหมอจัดฟัน (SKM Dental Clinic)

ที่คลินิกของเราพร้อมให้บริการโดยทันตแพทย์เฉพาะทางจัดฟันที่ได้รับการรับรองจากสมาคมทันตแพทย์เฉพาะทางจัดฟันแห่งสหรัฐอเมริกา (American Board of Orthodontics – ABO) การันตีคุณภาพ ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ที่ยาวนาน เพื่อดูแลรอยยิ้มของคุณอย่างมั่นใจ

📞นัดปรึกษาจัดฟันฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม: